ชีวิตของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ หนังออนไลน์ ระดับสูงของโลกบ่อยครั้งได้ถูกดัดแปลงนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ หลายคนอาจถูกหลงลืมเนื่องจากไม่ได้มีชื่อเสียงโดดเด่นยาวนาน หรือถูกสื่อมวลชนติดตามจนเป็นที่รู้จักทุกแง่มุม โดยหนังบางเรื่องถูกแต่งแต้มสีสันฉูดฉาดเกินจริงจนเลยเถิด บางเรื่องพยายามคงรักษาความเป็นปุถุชนเอาไว้จนสุ่มเสี่ยงจะน่าเบื่อซ้ำซาก Sergio หนังที่ได้ฉายเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลหนังซันแดนซ์ ก่อนจะเริ่มให้ชมผ่านเน็ตฟลิกซ์เป็นงานอย่างหลัง ที่แม้จะมองเห็นถึงความพยายามและส่วนที่โดดเด่น แต่ก็นับว่าสอบผ่านแบบเฉียดฉิว
หนังเล่าเรื่องราว หนังออนไลน์ ของ เซอร์จิโอ วิเอรา เดอ เมลโล ( วากเนอร์ มูร่า จากซีรีส์ Narcos รับบท Pablo Escobar ) ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษย์ชนของสหประชาชาติชาวบราซิลที่ทำงานนี้มานานกว่า 34 ปี และได้รับการยกย่องจากผลงานที่ทุ่มเทของเขา ชายผู้นี้เดินทางไปยังประเทศซึ่งอยู่ในห้วงความขัดแย้งทางการเมืองมากมาย เกิดสงครามกลางเมือง และการสู้รบระหว่างประเทศ ทั้งกัมพูชา ติมอร์ตะวันออก บอสเนีย หรืออิรัก ดังที่เขากล่าวไว้ในตอนเปิดเรื่องว่า
“ อย่าได้ลืมว่าความท้าทายและรางวัล หนังออนไลน์ ที่แท้จริงของการทำงานให้สหประชาชาติคือในภาคสนาม ”
ก่อนจะพาเราไปพบกับงาน หนังออนไลน์ ที่ต้องคานอำนาจของสหรัฐอเมริกาที่พยายามจะยึดครองอิรัก ขณะกำลังเปิดโปงการละเมิดสิทธิมนุษยชน และพยายามยึดครองบางพื้นที่ของสหรัฐฯ พอรู้ตัวอีกทีเขาก็จมอยู่กับซากตึกสหประชาชาติในกรุงแบกแดดเสียแล้ว
องค์การสหประชาชาติ หนังออนไลน์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 หลังสงครามโลกครั้งที่สองเพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือในด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ เจรจายุติสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศ โดยมีสมาชิกเข้าร่วมจำนวนมากจนนับเป็นองค์กรของโลก แต่ในอีกด้านก็ถูกวิจารณ์ถึงความไม่เป็นกลาง เป็นเพียงหุ่นเชิดภายใต้การกำหนดทิศทางจากประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาจนขาดประสิทธิภาพ หากผลงานหลายอย่างของเขานั้นนับว่าน่าทึ่งและกล้าหาญ หนึ่งในนั้นคือความพยายามเจรจาทางการทูตให้ประเทศอินโดนีเซีย คืนความเป็นเอกราชแก่ติมอร์ตะวันออก โดยทำการขอโทษที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากตลอดเวลา 24 ปี จนเพื่อนร่วมงานของเขาในทีแรกถึงกับบอกว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นแทบเป็นไม่ได้เลยในขณะที่ตอนนั้นอินโดนีเซียเรืองอำนาจยิ่งในภูมิภาคแถบนั้น

ผู้กำกับที่น่าจับตามอง หนังออนไลน์
เกร็ก บาร์คเกอร์ จัดเป็นหนึ่งในผู้กำกับอเมริกัน หนังออนไลน์ ยุคใหม่ที่ได้รับการจับตามองในฐานะคนทำหนังประเด็นการเมืองอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด ก่อน Sergio ซึ่งเป็นการเขียนบทของ เคร็ก บอร์เต็น ซึ่งโด่งดังจาก Dallas Buyers Club ซึ่งคว้าออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมในปี 2014 งานของเขาเป็นหนังสารคดีการเมืองระหว่างประเทศอันเข้มข้นที่คว้ารางวัลมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Ghosts of Rwanda ( 2004 ) และ Manhunt: The Search for Bin Laden ( 2013 ) รวมไปถังสารคดีชีวประวัติของ เซอร์จิโอ มาก่อนในปี 2009 นั่นคือ Sergio โดยดัดแปลงจากหนังสือชีวประวัติ Sergio: One Man’s Fight to Save the World ของ ซาแมนธา พาวเวอร์ นักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ ที่กวาดรางวัลจากเทศกาลต่าง ๆ มามากมาย
การถ่ายทำแบบใช้สองมือจัดการ
ความโดดเด่น moviethai ที่เห็นได้ชัดจากงานที่ผ่านมา ส่งผลต่อผลงานหนังคนแสดงเรื่องนี้ เขาสามารถคุมบรรยากาศของความวุ่นวายท่ามกลางสงครามในเมืองต่าง ๆ ที่เซอร์จิโอไปเยือนได้อย่างสมจริง หลายฉากใช้เทคนิคแบบสารคดี ทั้งภาพข่าว ภาพเหตุการณ์จริง การถ่ายด้วยเทคนิคแฮนด์เฮลด์ที่กล้องไม่ต้องเหวี่ยงจนลายตา จนทำให้เรามองเห็นการทำงานที่เหนื่อยยากของชายคนนี้ได้ตั้งแต่ต้น ปัญหาของงาน ดูหนัง ขนาดยาวเรื่องแรกของบาร์คเกอร์คือการเลือกตัวเอกที่มานำเสนอ เซอร์จิโอเป็นคนยิ่งใหญ่ ชีวิตผ่านสงครามการเมืองหลากหลายประเทศอย่างชนิดที่คงมีน้อยคนนักจะเคยมีประสบการณ์เช่นเดียวกับเขา ซึ่งน่าจะเกิดเหตุการณ์ตื่นเต้นมากมาย ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ แต่บุคลิกของเขาราบเรียบ และมีความเป็นคนดีจนขาดสีสันอื่น ๆ เกินไป
ผู้กำกับ moviethai พยายามอย่างยิ่งที่จะนำเสนอความซับซ้อนจากชีวิตอันผ่านอะไรมามากมาย ด้วยการตัดสลับช่วงเวลาคับขันของชีวิตเซอร์จิโอขณะติดอยู่ในซากตึกสำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงแบกแดดที่ระเบิดอย่างไม่ทันตั้งตัว กับเหตุการณ์ ดูหนัง สำคัญที่ผ่านเข้ามาในอดีต ช่วงเวลาตัดสินใจสำคัญที่เขาต้องฟันฝ่าไปให้ได้ ซึ่งก็นับว่าเป็นความพยายามที่ช่วยให้หนังมาไกลกว่าหนังชีวประวัติทั่วไป
ปัญหาอีกประการของหนังคือการมีภาพเป็น moviethai ที่นำเสนอเหตุการณ์สงครามต่อต้านการก่อร้าย หรือหนังยุคเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งถูกผลิตหนังอิงจากเหตุการณ์ดังกล่าวออกมาจำนวนมาก มีเรื่องเล่า ดูหนัง ต่าง ๆ ไม่รู้จบ แต่หนังกลุ่มนี้กลับแห้งแล้งอาจด้วยบรรยากาศของตะวันออกกลาง และตัวเรื่องเองที่มักนำเสนอภาพเมืองเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก และนำเสนอสารการเมืองไม่ในทางโปรอเมริกา ก็ต่อต้านความพยายามเข้าไปยึดครองของสหรัฐฯ
หนัง เรื่องนี้ เองแม้จะพยายามเลือกเรื่องที่ต่างออกไปก็ไม่พ้นอุปสรรคดังกล่าว บรรยากาศอันชวนกดดัน เมืองที่รอวันระอุจากไฟสงครามส่งผลให้ moviethai มักเคร่งเครียด ขาดความผ่อนคลาย หรือเมื่อพยายามจะผ่อนคลาย พื้นที่ของมันก็ไม่มีจังหวะดีพอ กลายเป็นความประดักประเดิดไปแทน ดังฉากหนึ่งใน หนัง เรื่องนี้ที่พยายามให้เห็นมุมมองความเป็นมนุษย์ของตัวเอกขณะอยู่ในเมืองติมอร์ ความรักของเขากับคาโลไรน่า และจูบท่ามกลางสายฝนกันอยางดูดดื่มโดยไม่แคร์สายตาใคร เป็นฉากที่ดูเร่าร้อน โจ่งแจ้งจนผิดที่ผิดทางอย่างน่าเสียดาย
ทีมนักแสดงที่ต้องโดดเด่นในการสื่อสาร
ตัวละครแบบ เซอร์จิโอ ชวนให้นึกถึงบทบาท หนัง ในอดีตเช่น To Kill a Mocking Bird ( 1962 ) กับ เกรกอรี่ เป๊ค ในบท แอคติคัท ฟินซ์ หรือ Saving Private Ryan ( 1998 ) กับ ทอม แฮงค์ ในบทผู้การ ที่ต้องใช้นักแสดงที่บุคลิกเข้ากับบุคลิกดังกล่าวจริง ๆ คนที่ทำให้เราเชื่อได้ทันทีว่าเป็นคนดี ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ซึ่ง วากเนอร์ มูร่า ( Narcos และ Elite Squad ) เองพยายามได้ดีและน่าจะเป็นบทบาทสำคัญในชีวิตบทหนึ่งของเขา โดยตัวบทเองก็เผยด้านลบของชีวิตชายผู้นี้ไม่น้อยทั้งความบ้างานจนแทบไม่รู้จักลูก หรือนอกใจภรรยา แต่เหมือนบทดังกล่าวก็ยังต้องการเรียกร้องจากเขามากกว่านั้น
หากคนที่ดูจะมีปัญหากว่าคือ อนา เดอ อาร์มาส ( Blade Runner 2049 ) ในบทคาโรไลน่า นักเศรษฐศาสตร์ หนัง สาวชาวบราซิลที่เข้ามาทำงานสหประชาชาติด้วยความมุ่งมั่น ชู้รักของเซอร์จิโอที่อายุต่างกันคราวลูก ที่เป็นเสมือนผู้หญิงซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ เป็นการเดินทางสู่อุดมคติที่เป็นไปไม่ได้ในติมอร์ หากบุคลิกและการแต่งตัวของเธอนั้นยั่วเย้าและเซ็กซี่เกินไป จนยากจะเชื่อว่าเธอทำงานด้านนี้ รวมไปถึงฉากเลิฟซีนที่สุดเร่าร้อนเกินไปสักนิด อย่างไรก็ตามหลายฉากในผลงานเรื่องนี้ก็ถ่ายทอดดีมาก ๆ เห็นได้ชัดว่าความเป็นคนทำสารคดีของบาร์คเกอร์ ทำให้เขาสามารถเผยแง่มุมชีวิตอันแสนเศร้าของคนตัวเล็ก ๆ ในติมอร์ ซึ่งกลายเป็นประโยคสำคัญของเรื่องที่กล่าวถึงสัจธรรมของมนุษย์ได้กินใจอย่างยิ่ง
“ ตลอดชีวิตของฉัน ฉันทำไร่ทำนา วันนี้ผืนดินของฉัน ครอบครัว หนัง ของฉันตายไปหมดแล้ว ฉันไม่เหลืออะไรอีก รู้ไหมว่าฉันต้องการอะไร ฉันอยากขึ้นไปบนฟ้าไปเป็นก้อนเมฆ แล้วก็เดินทางข้ามขอบฟ้าไปยังที่ที่ฉันเกิด และพอไปถึงที่นั่นก็ร่วงลงมาเหมือนเม็ดฝน จากนั้นก็อยู่ที่นั่นไปตลอดกาลบนดินของฉัน บนแผ่นดินของฉัน… ”
สิ่งที่เซอร์จิโอทำอาจไม่ใช่เพราะความดี มีมนุษยธรรม หนัง สูงส่ง เขาเพียงคืนความเป็นมนุษย์ให้สถานที่ซึ่งเขาเดินทางไป ไม่มีใครอยากอยู่ในสภาพที่ลดทอนความเป็นคนดังเช่นสภาพสงครามกลางเมือง เขาแค่อยากได้เป็นในสิ่งที่ควรเป็นก็เท่านั้นเอง
จบไปแล้วกับการรีวิวหนัง SERGIO อย่าลืมติดตามการรีวิวหนังและดูหนังชีวประวัติ Biography ใหม่ ๆ ได้ที่ “moviethai”